เข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นฤดูที่ยาวนานที่สุด และเพื่อความปลอดภัยควรตรวจสอบสภาพ ยางรถยนต์ว่า ตรวจดู “ดอกยาง” หากพบว่าร่องยางตื้นจนถึงแถบคาดบอกการสึกในร่องดอกยางแล้ว ก็ควรเปลี่ยนใหม่ แม้เนื้อยางจะนิ่มหรือใช้งานมาได้ไม่นาน เพราะยางชุดดังกล่าว “ไม่สามารถรีดน้ำ” ออกจากหน้ายางได้อย่างปลอดภัยอีก

เราขอเสนอยางรถยนต์ 5 รุ่น ในกลุ่มยางประหยัด ประสิทธิภาพดี สมราคา สำหรับอีโคคาร์ (และครอบคลุมรถขนาดอื่น ๆ สำหรับยางบางรุ่น) ที่เหมาะกับหน้าฝน ราคา 4 เส้น ไม่ถึงหมื่นบาท ยิ่งถ้าแค่ขับย่อง ๆ ไปทำงาน หรือเดินทางไกลไม่ได้ใช้ความเร็วสูงจัด ยิ่งไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ยางรุ่นท็อป แบรนด์ใหญ่ ไว้พิจารณาเป็นตัวเลือกแบบไม่ต้องรอโบนัสปลายปี เปลี่ยนได้ทันทีสบายใจ ไม่เจ็บกระเป๋า

ยางรุ่นใหม่ของ Maxxis ไต้หวัน จัดอยู่ในกลุ่มยางราคาประหยัด ขอบยางออกแบบมาให้ลดแรงต้านทานการหมุน เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ร่องดอกยางขนาดใหญ่รีดน้ำได้ดี ลดการเหินน้ำ

ขนาดยางทั้งหมดของ Maxxis ME3

• 175/70 R13 82H
• 185/60 R15 88H
• 185/65 R15 88H
• 195/55 R15 85V
• 205/60 R15 91H
• 205/65 R15 94H

เป็นยางรถยนต์ผลิตในอินเดีย เน้นความคุ้มค่า รับประกัน 2 ปี โดยไม่มีเงื่อนไข และ 5 ปี สำหรับการรับประกันคุณภาพยางตามปกติ ยาง  Apollo Alnac 4G จึงเป็นยางรถยนต์อีกรุ่นที่น่าสนใจหากมองหายางอีโคคาร์ คุณภาพสมราคา ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนถนนเปียกมั่นใจได้

ขนาดยางทั้งหมดของ Apollo Alnac 4G

• 185/60 R14   82H
• 185/65 R14   86H
• 185/70 R14   88H
• 185/55 R15   82V
• 185/60 R15   88H
• 185/65 R15   88H
• 195/50 R15   88V
• 195/55 R15   85H
• 195/60 R15   88H
• 205/60 R15   91H

ยางรถยนต์จากเกาหลี ที่ไม่มีส่วนผสมของโสมใด ๆ แต่ Hankook Kinergy EX H308 ออกแบบให้ร่องยาง (ซึ่งส่งผลต่อการรีดน้ำ) มีความกว้างหลากหลายขนาดเพื่อให้รีดน้ำออกจากหน้ายางได้เร็ว รวมถึงร่องไหล่ยางขนาดเหมาะสมช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้ส่วนหนึ่ง

ขนาดยางทั้งหมดของ Hankook Kinergy EX H308

• 175/70 R13 82T
• 175/65 R14 82T
• 175/70 R14 84T
• 175/65 R15 84H
• 185/70 R13 86T
• 185/60 R14 82T
• 185/65 R14 86T
• 185/70 R14 88T
• 185/55 R15 82H
• 185/60 R15 84H
• 185/65 R15 88T
• 195/70 R14 91T
• 195/55 R15 85H
• 195/60 R15 88H
• 195/65 R15 91H
• 195/50 R16 84H
• 205/65 R15 95T

แบรนด์ยางรถยนต์ของคนไทย คุณภาพมั่นใจได้ โดยรุ่นที่น่าสนใจสำหรับอีโคคาร์ในราคาไม่แรง ใช้งานบนถนนเปียกช่วงหน้าฝนได้อย่างไม่ต้องกังวลนัก คือ Deestone Premium Tourer RA01 ดอกยางถูกออกแบบมาให้ขับสบาย เสียงรบกวนน้อย การยึดเกาะดีบนถนนเปียกและแห้ง เหมาะสมกับราคาสำหรับยางกลุ่มประหยัด

ขนาดยางทั้งหมดของ Deestone Premium Tourer RA01

• 185/55 R15 82V
• 185/60 R15 84H
• 185/65 R15 88H
• 185/65 R16 83H
• 195/55 R15 85V
• 195/60 R15 88V
• 195/65 R15 91H
• 195/50 R16 84V
• 195/55 R16 87V
• 205/60 R15 91V
• 205/65 R15 94H
• 205/55 R16 91V
• 205/60 R16 92V
• 205/65 R16 95V

• 215/65 R15XL 100H
• 215/55 R16 93V
• 215/60 R16 95V
• 215/45 ZR17 87W
• 215/50 ZR17 91W
• 215/55 ZR17 94W
• 225/60 R16 98V
• 225/45 ZR17 91W
• 225/50 R17XL 94W
• 235/45 R17XL 97W
• 245/45 R17XL 95W

ยางแบรนด์จีน ผลิตในไทย ราคาเบามาก โดย Goodride RP28 จะเน้นคุณสมบัติ นุ่ม เงียบ ลดแรงต้านเพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ดอกยางออกแบบมาให้ลดเสียงรบกวนและเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำ นอกจากนี้จุดเด่นของ Goodride คือ การรับประกันคุณภาพยางตลอดอายุการใช้งาน/รับประกันความเสียหายจากสภาพถนนทุกกรณีภายใน 100 วัน (เปลี่ยนยางใหม่)

ขนาดยางทั้งหมดของ Goodride RP28

• 165/65 R13
• 165/60 R14
• 165/65 R14
• 165/70 R14
• 175/65 R14
• 175/60 R15
• 175/65 R15
• 185/55 R15
• 185/55 R16

• 195/50 R15
• 195/55 R15
• 195/60 R15
• 195/65 R15
• 195/50 R16
• 195/55 R16
• 195/60 R16
• 205/55 R16
• 215/65 R15

สำหรับราคายางรถยนต์ทั้ง 5 รุ่น (อ้างอิงจากขนาด 185/65R15) ซึ่งอาจแตกต่างกันตามช่องทางและตัวแทนจำหน่าย โดยมีแจ้งประกาศขายให้เห็นตั้งแต่ 1,000 บาท ต้น ๆ ไปจนถึง 2,000 บาท ต่อเส้น และไม่ว่าจะเลือกซื้อจากช่องทางใด

ควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ว่ามีหรือไม่มีบริการใดรวมอยู่บ้าง รวมถึงปีผลิตของยางด้วยทุกครั้ง (วิธีการดูสเปกยางรถยนต์) เพราะยางปีเก่าที่ผลิตทิ้งไว้นาน เนื้อยางย่อมเสื่อมสภาพเร็วกว่ายางปีใหม่ โดยหวังว่าหน้าฝนนี้ทุกคนจะได้ขับขี่รถอย่างมั่นใจ ปลอดภัย ไม่ต้องลุ้น

ภาพจาก Deestone, Maxxis, Apollo, Hankook และ Goodride